วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำอย่างไร...เมื่อแพ้เครื่องประดับโลหะ

จากเว็บ http://www.oneclickdiamond.com/

เคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่าบางครั้งหลังจากการใส่เครื่องประดับ มักจะทิ้งร่องรอยเป็นคราบสีเขียวหรือดำไว้บนผิว คราบเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าเราแพ้โลหะเสมอไป แต่เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นระหว่างโลหะกับผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อเครื่องประดับสัมผัสกับผิวหนังที่มีเหงื่อ

เครื่องประดับทองแดง
ทองแดงจะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดคราบสีเขียว เครื่องประดับที่คุณใส่อาจจะไม่ใช่ทองแดงร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็อาจมีทองแดงมากพอที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยานี้ขึ้น และในบางคนก็อาจเกิดอาการแพ้โลหะทองแดงซึ่งจะแสดงอาการให้เห็นจากผื่นหรือปื้นแดง

เครื่องประดับเงิน
เครื่องประดับเงินหรือ sterling silver จะประกอบด้วยทองแดง 7.5% แต่คราบที่เกิดขึ้นมักจะเป็นสีดำ นอกจากจะเกิดขึ้นเวลาสวมใส่แล้ว ยังพบได้บ่อยเมื่อทิ้งเครื่องประดับเงินไว้ให้สัมผัสอากาศ เครื่องประดับเงินจะเกิดความหมอง ซึ่งโดยทั่วไปสามารถป้องกันได้โดยการเคลือบหรือชุบด้วยสารที่ช่วยป้องกันความหมอง แต่ก็สามารถหลุดลอกได้เมื่อใส่ไปนานๆ

เครื่องประดับทอง
ทองคำเป็นโลหะที่ไม่ทำปฏิกิริยากับผิวหนัง แต่คราบที่เกิดขึ้นนั้นอาจมาจากทองแดง นิกเกิล หรือเงินที่ผสมลงไปเพื่อให้เครื่องประดับทองมีความแข็งแรงและสามารถขึ้นรูปเป็นชิ้นงานได้ง่าย เครื่องประดับทองจะอยู่ในรูปของทองเค ซึ่งตัวเลขที่อยู่หน้า K (Karat) นั้น มีความหมายถึง สัดส่วนของทองคำ ยิ่งตัวเลขน้อยเท่าใด ก็แสดงว่ามีทองคำผสมอยู่น้อย และมีโลหะอื่นๆอยู่มาก สำหรับบางคนอาจจะไม่เกิดอาการแพ้หรือมีคราบที่เกิดจากปฏิกิริยาของโลหะกับผิวหนัง แม้ว่าจะใส่เครื่องประดับทองแค่ 10K ก็ตาม แต่บางคนแม้จะใส่ 18K ก็ยังคงมีอาการอยู่

เครื่องประดับนิกเกิล
สำหรับผู้ที่แพ้โลหะนิกเกิล จะไม่เกิดคราบสีบนผิว แต่จะมีอาการคันและแดงบริเวณที่เครื่องประดับสัมผัสกับผิว

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดคราบสีและอาการแพ้โลหะ

- เปลี่ยนไปใช้เครื่องประดับที่มีส่วนผสมของทองคำมากขึ้น เช่น 18K

- แพลตินัมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่มีทางทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ก็มีราคาที่สูงมาก

- แจ้งให้ทางร้านทราบว่าคุณต้องการให้ชุบหรือเคลือบเครื่องประดับเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรงของโลหะกับผิว

- วิธีการง่ายๆที่สามารถทำได้เองก็คือ ใช้น้ำยาเคลือบเล็บป้ายบริเวณที่เครื่องประดับสัมผัสกับผิว

- หากเลือกซื้อ body jewelry ควรเลือกชนิดที่เป็นสแตนเลส

- ไทเทเนียมเป็นอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ทีแพ้โลหะ และไทเทเนียมก็ไม่ทำให้เกิดคราบสีด้วย

- จิวเวลรี่บางประเภทจะระบุว่า hypo-allergenic ซึ่งทำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย

- พยายามอย่าให้เหงื่อออกเมื่อสวมใส่เครื่องประดับ

- ดูแลรักษาเครื่องประดับให้สะอาดและปราศจากคราบหมอง
บทคัดลอก : Gemclub

ทองขาว กับ ทองคำขาว (White gold vs. Platinum) ต่างกันอย่างไร

จากเว็บ http://www.oneclickdiamond.com/

ทองขาว ใช่ ทองคำขาว หรือเปล่า? คำตอบคือ ไม่
ทองคำขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า แพลทินัม (Platinum) ส่วนทองขาว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า ไวท์โกลด์ (White gold)ผู้ซื้อส่วนมากมักจะโดนร้านค้าสอนให้เรียกแบบผิดๆ ซึ่งทำให้สินค้าของตัวเองดูมีราคามากขึ้น แต่จริงๆแล้วทองคำขาวมีราคาสูงกว่าทองคำบริสุทธิ์ (Gold) ประมาณ 2 เท่า ซึ่งทองขาวจะถูกว่าทองคำบริสุทธ์ เนื่องจากมีส่วนผสมที่ไม่ครบ 100% นั่นเอง

ทองขาว (White gold)
ทองขาว คือโลหะผสม ของทองคำและโลหะสีขาว เช่น เงิน และ แพลเลเดียม ซึ่งเราอาจจะเห็นทองขาวมีตัวเลข 90% , 75% หรือ % อื่นๆ ก็ตาม ดูจากตัวอย่าง เช่น ทองคำ (Yellow gold) มีตัวเลข 90% หมายถึง ทองคำ 90% + ทองแดงและสังกะสี อีก 10% ทองขาว (White gold) มีตัวเลข 90% หมายถึง ทองคำ 90% + เงินและแพลเลเดียม อีก 10% จึงเห็นได้ว่ามีทองคำเป็นโลหะหลักเหมือนกัน แต่มีส่วนผสมอื่นต่างกัน เมื่อก่อนจะใช้ นิกเกิล (Nickel) มาเป็นส่วนผสมในการทำทองขาว แต่ต่อมาก็ไม่ได้นำมาใช้ เพราะว่าเกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับผิวหนังของบางคน โดยมีการระคายเคืองเล็กน้อยและอาจจะเป็นผื่นคัน
แหวนทองขาวระยะหลังจะมีการเคลือบผิวด้วยโลหะสีขาวที่เรียกว่า โรเดียม (Rhodium) ซึ่งดูคล้ายกับทองคำขาวมาก การเคลือบผิว(ชุบ)ด้วยโรเดียม จะทำให้ทองขาวดูขาวมากขึ้นอีก โดยธรรมชาติแล้วสีของทองขาวจะเป็นสีออกขาวอมเทา แต่โรเดียมจะขาวมากและแข็งมากอีกด้วย ในการเก็บรักษาแหวนทองขาวให้ดูดีตลอด จะต้องนำไปชุบด้วยโรเดียมทุกๆ 12-18 เดือน
ทองคำกับทองขาว อย่างไหนแพงกว่ากัน? ขึ้นอยู่ส่วนผสม หรือเปอร์เซ็นต์ (%) ของทองคำที่นำไปใช้ แต่ถ้ามีส่วนผสมหรือเปอร์เซ็นต์ (%) ที่เท่ากันแล้ว ทองขาว 75% จะแพงกว่าทองคำ 75% เพราะว่าเงินและแพลเลเดียม ที่ใช้เป็นส่วนผสมของทองขาว มีราคาสูงกว่า ทองแดงและสังกะสีที่ใช้เป็นส่วนผสมของทองคำ
ทองคำขาว (Platinum)
ทองคำขาวคือโลหะสีขาวบริสุทธิ์ (อยู่ที่ประมาณ 95%) มาจากรากศัพท์ว่า แพลทินา ซึ่งแปลว่าเงินเล็กๆ ทองคำขาวมักพบเป็นเม็ดเล็กๆ หรือก้อนขนาดเล็กที่อยู่ในตะกอบทับถมของแร่ แหล่งทับถมแหล่งใหญ่คือ รัสเซีย แคนาดา และแอฟริกาใต้ ด้วยความแข็งที่ไม่มาก จึงไม่ค่อยเป็นผลึกที่เป็นเหลี่ยมคมมาก มักถูกใช้เป็นตัวโลหะสำคัญในเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่นเครื่องมือผ่าตัด เพราะไม่เป็นสนิม และที่นิยมมาทำเครื่องประดับ เพราะจะมีความขาวที่ยาวนานมาก (ไม่ลอกไม่ดำ) ดังนั้นจึงไม่ต้องนำไปชุบด้วย โรเดียมเหมือนทองขาว ทองคำขาวจะมีความหนักกว่าทองคำเมื่อเทียบในปริมาณเท่ากัน เมื่อสวมใส่จะสามารถรู้สึกได้ทันที และทองคำขาวจะแพงกว่าทองคำ ราวๆ 2 เท่า แต่เวลาขายราคาจะลดลงอย่างน่าใจหาย อาจต่ำกว่าทองคำด้วยซ้ำไป

สีของทองขาว แตกต่างจาก ทองคำขาว อย่างไร ถ้าเป็นเครื่องประดับทองขาวแท้ๆ จะมีสีขาวอมเทา แต่ถ้าถูกชุบด้วยโรเดียมมาใหม่ๆ สีจะขาวกว่าซึ่งดูคล้ายทองคำขาวมาก แทบแยกไม่ออก
บทคัดลอก : Gemclub

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

แหวนแบบไหน ใช่เลยกับนิ้วเรา

จากเว็บ http://www.oneclickdiamond.com/

เครื่องประดับ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ เพราะเครื่องประดับ นั้นจะทำให้เราดูดี ูมีรสนิยมมากกว่าที่จะแต่งตัวแบบธรรมดาเรียบๆ ไม่มี เครื่องประดับ อะไรเลย โดยเฉพาะ "แหวน" ที่เป็นเครืองประดับพื้นฐานและยังมีความหมายมากสำหรับการเริ่มต้น ชีวิตคู่ แต่คุณสาวๆ บางคนแอบกังวลใจเล็กน้อยในการเลือกซื้อแหวนให้เข้ากับนิ้วมือตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแหวนแบบไหนดี สไตล์ไหนดี เข้ามาสวมใส่นิ้วมือของคุณ แล้วจะทำให้นิ้วมือของคุณแลดูสวยงาม จนทำให้คนรอบข้างอยากสัมผัสอย่ากังวลใจไปเลยค่ะ เรามีวิธีง่ายๆ มาแนะนำให้คุณๆ ทราบกัน แต่ก่อนอื่นเราต้องดูลักษณะนิ้วมือของเราก่อนว่าเป็นแบบไหนกัน

> นิ้วอวบ-มืออวบ คนที่มีนิ้วมือที่อวบควรจะเลือกใส่แหวนที่ตรงหัวแหวนมีลักษณะรูปทรงไปในทางยาว รูปทรงหยดน้ำ รูปทรงไข่ (ทรงมาตรฐานของโลก) หรือรูปทรงสี่เหลี่ยมยาวก็ได้ เพราะรูปทรงยาว ตัวหัวแหวนนี้จะช่วยให้นิ้วคุณดูไม่ทึบไม่สั้น ดูโปร่ง แล้วเรียวยาวมากขึ้นด้วย หรือจะเลือกทรงที่มีตัวเรือนเตี้ยๆ เรียบๆ แต่มีสีสันสดใส หรืออ่อนหวานก็ได้ส่วนบ่าแหวนก็ไม่ควรเลือกที่มีลักษณะใหญ่ทึบ ควรจะเลือกบ่าแหวนที่ดูบางๆ จะดีกว่า อ้อ! และที่สำคัญ คุณอย่าใส่แหวนที่คับเกินไปนะ เพราะนั่นหมายถึงส่วนเกินตรงนิ้วของคุณจะโผล่ออกมาเห็นได้ชัดมากขึ้น


> นิ้วสั้น-มือสั้น คนที่มีนิ้วลักษณะนี้ ถ้าเลือกรูปทรงหัวแหวนไม่ดีก็จะทำให้นิ้วยิ่งดูสั้นลงไปอีก รูปทรงหัวแหวนที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดสำหรับคนนิ้วสั้น ก็คือรูปทรงสี่เหลี่ยม และลองหันมาใส่ทรงหัวใจที่มีขนาดใหญ่นิดหนึ่ง หรือรูปทรงไม่ยาวมากนักก็กิ๊บเก๋น่ารักดูเป็นสาวหวานด้วย ส่วนบ่าแหวนสำหรับคนนิ้วสั้น ไม่ควรบางหรือหนาเกินไป เลือกที่พอดีๆ จะดีกว่า


> นิ้วยาว-มือยาว ส่วนใหญ่คนที่มีนิ้วลักษณะนี้ก็จะเป็นคนที่มีรูปร่างสมส่วน ผอมสูง แต่อย่าเพิ่งอิจฉาคนที่มีนิ้วลักษณะนี้นะ เพราะคนที่มีนิ้วยาวนี้ไม่ได้สวมแหวนแล้วสวยอย่างที่คิด ลองสังเกตดูตรงโคนนิ้วดูจะเห็นว่ามีเนื้อที่โคนนิ้วค่อนข้างน้อย แต่ตรงข้อนิ้วกลับใหญ่ ดูๆ แล้วเหมือนทรงนาฬิกาทราย ทำให้ใส่แหวนยากกว่านิ้วลักษณะอื่น เพราะเมื่อใส่เข้าไปแหวนจะติดตรงข้อนิ้วก่อนจะถึงโคนนิ้ว แล้วจะทำให้หลวมตรงโคนนิ้ว แหวนก็จะหมุนไปหมุนมาค ส่วนรูปทรงที่เหมาะกับนิ้วยาวนี้ก็ควรเลือกทรงที่มีลักษณะเป็นเส้นคดโค้งเพิ่มความอ่อนหวาน หรือแบบกว้างและยาวไปจนเต็มข้อนิ้ว เพราะจะทำให้นิ้วคุณดูมีเนื้อเต็มขึ้น มีน้ำมีนวล และยังช่วยลดความยาวผอมของนิ้วลงด้วย


> นิ้วเรียวงาม-มือเรียว โอ้ว ! เพอร์เฟ็กต์ ถือว่าได้เปรียบกว่านิ้วลักษณะอื่นๆ เลย เพราะไม่ว่าแหวนทรงเรียวยาวตามนิ้ว ทรงแบบขวางนิ้ว ทรงไข่ ทรงสี่เหลี่ยม หรือทรงกลม ก็ดูจะเข้ากับนิ้วลักษณะนี้เสียนี่กระไร แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่นิดหนึ่งคือไม่ควรเลือกแหวนที่มีลักษณะใหญ่มากคล้ายผู้ชาย เพราะจะให้ความรู้สึกแข็งเกินไป จะทำให้บดบังนิ้วที่เรียวงามดูสวยอยู่แล้ว

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สร้อยข้อมือ แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

จากเว็บ http://www.oneclickdiamond.com/

การเลือกสร้อยข้อมือก็คล้ายกับหลักการเลือกสร้อยคอ คือเราต้องกลับมาพิจารณาแขนและข้อมือของเราก่อน ว่าเหมาะกับ สร้อยข้อมือแบบใด เพราะแขนและข้อมือของคุณผู้หญิงแต่ละท่านย่อมแตกต่างกันไปตามเค้าโครงสรีระเฉพาะตัว และ เราก็แบ่งลักษณะของแขนได้ 3 แบบ ด้วยกันคือ

1.แขนอวบท้วม ผู้ที่แขนที่อวบท้วมนั้นมักจะมีข้อมือที่กลมกลึง กระดูกข้อมือไม่ปูดโปนร้อยข้อมือที่เหมาะกับผู้ที่มีข้อมือและลำแขนแบบนี้ ควรเป็นสร้อยที่มีขนาดพอเหมาะไม่ใหญ่จนเกินไป หรือมีขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะเป็นสร้อยข้อมือที่หลวมพอ เหมาะ ไม่ฟิตจนรัดข้อมือแน่นจนเกินไป เวลาสวมใส่ให้ตัวสร้อยสามารถเลื่อนไปมากับข้อมือได้ ดูสบายๆ และสวยงามซึ่งจะ ช่วยทำให้ข้อมือของท่านดูเล็กลงได้ และยังสวยงามอีกด้วย
2.แขนผอม ลักษณะแขนแบบนี้เราจะสังเกตเห็นกระดูกข้อต่อของข้อมือได้ชัดเจน มักพบกับผู้ที่มีรูปร่างผอม ลักษณะผู้ที่มี แขนและข้อมือแบบนี้ ควรสวมสร้อยข้อมือที่มีลักษณะแบน หรือสร้อยข้อมือที่ค่อนข้างหนา เช่น ลองสวมสร้อยข้อมือไข่มุก เม็ดเล็กแบบ 2 หรือ 3 สาย หรือกำไลแบนๆ ที่ใหญ่พอควร และควรเลือกที่มีความหลวมกว่าข้อมือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะจะช่วยอำพรางความผอมของลำแขนและกระดูกข้อมือได้เป็นอย่างดี ข้อควรระวังเวลาสวมใส่ ระวังอย่าให้สร้อยข้อมือ หรือกำไลหลวมเกินไป เพราะจะยิ่งเน้นความผอมของแขนและกระดูกข้อมือให้ชัดเจน
3.แขนเรียวงาม ผู้ที่มีแขนและข้อมือแบบนี้ถือว่าโชคดี เพราะสามารถเลือกใส่สร้อยข้อมือแบบใดก็ได้ แต่ก็ต้องพิจารณา เรื่องของสีสันอัญมณีที่ประดับว่าเหมาะกับสีผิว และรูปแบบของสร้อยว่าเหมาะกับบุคลิกของท่านหรือไม่ เหมาะกับเสื้อผ้าที่ สวมใส่ขณะนั้นหรือไม่ ซึ่งหากไม่ระวังเรื่องการเลือกให้เหมาะสม สร้อยข้อมือที่สวยงาม ก็อาจจะลดทอนความงามของท่าน ก็เป็นได้